วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

Riding on an airplane ขี่เรือบิน




Riding on an airplane ขี่เรือบิน




 Austrian skydiver Paul Steiner touches the caudal fin upturned glider which he flew for a few minutes before. 
พอล สไตน์เนอร์ นักเหินเวหาชาวออสเตรีย (ประเทศนี้อยู่ในยุโรปกลาง มีทิวทัศน์สวยงามด้วยเทือกเขาสูง พลเมืองใช้ภาษาเยอรมัน)  ยืนบนเครื่องบินลำหนึ่ง แล้วสัมผัสกระโดงหลังของเครื่องบินอีกลำที่ตีลังกาบิน

During the flight the glider Blanik L-13 in the air, Paul Steiner climbed on the wing at a speed of 130 km / h. 
ขณะที่เครื่องบิน  Blanik L-13 บินอยู่ในอากาศ  พอล สไตน์เนอร์ ก็ไต่ไปอยู่ที่ปีกเครื่องบินที่กำลังบินด้วยความเร็ว 130 กม./ชม. 

47-year-old Austrian skydiver stood on the fuselage airframe and touched the tail fin upturned glider which he flew for a few minutes before. Then bailed to return to earth 
นักเหินหาวออสเตรียนี่ยนี้ อายุ 47 ยืนบนตัวเครื่องบิน แล้วไปสัมผัวหางกระโดงของเครื่องบินอีกลำที่กำลังบินด้วนท่าตีลังกาขนานกันไป 


Steiner sits on the wing of a glider at a speed of 130 km / h, it waits until the second glider like below.
สไตน์เนอร์นั่งอยู่บนปีกเครื่องบิน ณ ความเร็ว 130 กม./ชม.


"It was an incredible trick that no one had done before! We rehearsed for a whole year, minimizing errors and practicing each step over and over again. In the end, it was worth it, "said Steiner with 
Pilots of the L-13 Blanik Roytner Ewald and Kurt Tipple.
"มันเป็นเคล็ดลับที่เหลือเชื่อ  mujไม่มีใครเคยทำมาก่อน  เราซ้อมตลอดทั้งปี เพื่อลดข้อผิดพลาด และการฝึกซ้อมในแต่ละขั้นตอนซ้ำแล้วซ้ำอีก.ในท้ายที่สุดมันก็คุ้มค่า"  เป็นคำกล่าวของสไตน์เนอร์  และสองนักบิน คือ แบลนิก รอยต์เนอร์  กับเคิร์ต ทิพเพิล



Steiner flips on the wing to move to the second glider as it approaches 
สไตน์เนอร์ตีลังกา ณ ปีกเครื่องบินลำหนึ่ง  เพื่อเคลื่อนตัวไปยังเครื่องบินอีกลำ






Steiner sits on the wing of a second glider and releases the leading glider at an altitude of 2100 meters
สไตน์เนอร์ นั่งบนปีกของเครื่องบินลำที่าองได้แล้ว จึงละตัวเองจากเครื่องบินลำแรก  ที่ระดับความสูง 2100 เมตร 

หมู่บ้านชังโฮ...หมู่บ้านที่สวยที่สุดของ "เกาหลีใต้"



       หมู่บ้านชังโฮ เป็นหมู่ชาวประมงเล็กๆ ตั้งอยู่ที่เมืองซัมชอก ในจังหวัดคังวอน จริงๆ แล้วมีครอบครัวชาวประมงอาศัยอยู่กันเพียง 72 ครอบครัวเท่านั้น เป็นที่พูดถึงในหมู่นักท่องเที่ยวจำนวนมากว่าเป็น "หมู่บ้านที่สวยที่สุดของเกาหลีใต้" หรือบางคนก็เรียกที่นี่ว่า  "The Naples of Korea" หมายถึง เมืองเนเปิลส์ซึ่งเป็นเมืองในอิตาลี

   
       หมู่บ้านชังโฮ (장호어촌체험마을) อยู่ทางใต้ของเมืองซัมชอก โดยอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไป 26 กิโลเมตร หากขับรถยนต์ไปจะอยู่ห่างจากกรุงโซลประมาณ 4 ชั่วโมง ในช่วง 2-3 ปีนี้ เกิดกระแสนิยมการท่องเที่ยวหมู่บ้านชังโฮในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีด้วยกัน ปกติจะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนหมู่บ้านนี้ปีละ 4-5 หมื่นคน แต่หลังจากในปี 2011 ที่หมู่บ้านนี้ได้รับยกย่องให้เป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเกาหลีโดยหน่วยงานที่ดูแลหมู่บ้านวัฒนธรรม ก็ทำให้เกิดกระแสนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีหลั่งไหลไปเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ปีละนับแสนกว่าคนเลยทีเดียว

   

      ช่วงพีคของฤดูท่องเที่ยวที่นี่จะเป็นช่วงหน้าร้อน คือตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนค่ะ 
กิจกรรมยอดฮิตก็ไม่พ้น นอนอาบแดด ดำน้ำ สน็อกเกิ้ล ตกปลา พายเรือแคนู เดินเที่ยวตลาดปลา



     
      สำหรับการเดินทางจากโซล ให้ไปขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งคังนัม ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ค่ารถประมาณ 15,000 วอน(450 บาทต่อเที่ยว) จากนั้นเมื่อไปถึงสถานีขนส่งที่เมืองซัมชอกแล้ว สามารถนั่งแท็กซี่ต่อไปยังหมู่บ้านชังโฮ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ

















CR;  http://www.dek-d.com/studyabroad/34929/

A House in the Sewer บ้านในท่อระบายน้ำ

A House in the Sewer บ้านในท่อระบายน้ำ


ฺBlackie, go to the market for Mom
แบล็กกี้...หนูช่วยไปจ่ายตลาดให้แม่หน่อยนะ
A House in the Sewer - Twenty-two years ago, a former drug addict Miguel Restrepo  and his wife, Maria Garcia from the Colombian town of Medellin were left homeless. They had no where to wait for help, but they are not desperate. Over time, they will have their homes ... under sewer hatch. In their small home has a bed, a chair, a fan, a TV and even had room for Blackie - a small friendly dog. Happy couple and felt that they were lucky compared to other homeless people.

บ้านในท่อน้ำ  ... 22 ปีมาแล้ว  ที่อดีตผู้ติดยาเสพติดจาก เมืองเมดิลลิน ประเทศโคลัมเบีย(ประเทศนี้มีการลักลอบผลิตยาเสพติดโคเคน  cocaine โดยขบวนการค้ายาเสพติดมหึมาที่มีกองกำลังติดอาวุธ)  นายมิเกล  เรสเตรโป้  และภรรยา มาเรีย การ์เซีย  ได้ถูกปล่อยทิ้งให้เป็นคนไร้บ้าน  พวกเขาไม่มีที่จะไป ไม่มีที่จะซุกหัวนอน  .....แต่ก็ไม่ได้ท้อแท้ พวกเขาก็ดิ้นรนมาสร้างบ้านคุ้มภัยในท่อน้ำขนาดเขื่อง  มีเตียงนอน พัดลม โทรทัศน์... แถมยังมีที่อยู่ให้ แบล็กกี้ (เจ้าหมาราหูเพื่อนคู่ชีวิต) ..แค่นี้..สองตายายก็สุขโขสโมสรกว่าใครๆ ในบรรดาคนไร้บ้านด้วยกัน ... เจ้าแบล็กกี้  มันเป็นเสมือนลูกในไส้ของพวกเขา  เป็นขวัญกำลังใจ ให้กับสองตายาย...ในยามยาก  และแบล็กกี้มันก็ไม่เคยตีจากพวกเขาไป ...จะไม่ให้รักและผูกพันมันอย่างไรไหว.... ดูภาพพวกเขาสิ...



ในบ้านท่อน้ำ ก็มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม
ที่สำคัญก็ เจ้าแบล็กกี้  สุนัขสีนิลตัวนี้


พ่อ-ลูก  แอ็คชันหน่อย





Blackie is their chain of love  เจ้าแบล็กกี้เป็นโซ่ทองคล้องใจให้สองตายาย...สู้ตาย..สู้..สู้
ฺBlackie, the Lucky  แบล็กกี่..นำโชคดี

Arts on the Rice Field ศิลปะบนผืนนาจีน

On last July 2014 in ShenYang, Liaoning province, rice field paintings attracted great attention.

source :  http://www.china-underground.com
453,000 square meters of fields are embodied and feature simple and abstract patterns, characters, human figures, animals and plants. Nezha Conquers the Dragon King is one of the most attractive pictures featured; Nezha is a deity from ancient Chinese mythology and literature.
Shenyang started creating rice field art in 2012 and hosted it annually. "Qixinglongteng", “Seven stars and one dragon" created in 2012, created in Shenbei New Area, is considered the one of the largest rice paddy artwork in the world. The city because of its 100000 square meters of rice paddy art, received the certification of the biggest rice field painting in the world from WRA.
World Record Association (abbreviated as WRA) formally registered in 2010, was established through approval from the Hong Kong Government and is a commercial record organization to list non-sports civilian world records.
Now northeast China's ShenYang city is becoming a hot tourism attraction thanks to its rice fields.
Rice paddy art is an art form originating in Japan since 1993. The people of Inakadate, Aomori were looking for a way to revitalize their village. To honor the 2000 years of growing rice area, they decided to use the paddy as a canvas and cultivate four different types and colors of rice to create giant pictures. To allow viewing of the whole picture, they erected a high castle tower.







Samsung เปิดตัว Galaxy Note 4

Samsung Galaxy Note 4 เปิดตัวแล้ว!



เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครับ สำหรับ Samsung Galaxy Note 4 ในงาน Samsung UNPACKED 2014 Episode 2 ที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เรียกได้ว่า ในปีนี้ Samsung Galaxy Note 4 มีความน่าสนใจอย่างมาก ตั้งแต่บอดี้ตัวเครื่องเลยทีเดียวครับ โดยมาพร้อมกับกรอบตัวเครื่องแบบโลหะ (Metal Frame) แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Alpha นั่นเอง นอกจากนี้ ปากกา S Pen ซึ่งถือว่า เป็นอุปกรณ์คู่ใจบน Samsung Galaxy Note 4 ยังมาพร้อมกับ ฟีเจอร์การใช้งาน ที่น่าสนใจอีกมากมายด้วย มาดูกันครับว่า Samsung Galaxy Note 4 ในปีนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
สเปค Samsung Galaxy Note 4
- หน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED Display ความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล (QHD)
- กระจกหน้าจอแบบ 2.5D Gorilla Glass 3
- ชิปเซ็ตมีให้เลือก 2 แบบ (แล้วแต่ประเทศที่วางจำหน่าย) ได้แก่ Snapdragon 805 chipset (รองรับ LTE Cat 6) แบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 2.7 GHz และ Exynos 5433 chipset (รองรับ LTE Cat 4) แบบ Octa-Core Processor (Quad-Core 1.9 GHz + Quad-Core 1.3 GHz)
- รัน Android 4.4 (KitKat)
- RAM 3 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รองรับ microSD card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว (Smart OIS)
- แบตเตอรี่ขนาด 3220 mAh
ดีไซน์ปรับปรุงใหม่ มาพร้อมกรอบตัวเครื่องโลหะ แบบเดียวกับ Samsung Galaxy Alpha



เรียกได้ว่า Samsung Galaxy Note 4 ในปีนี้ มีดีไซน์ที่สวยขึ้นกว่าเดิมมาก โดยได้ Samsung Galaxy Alpha เป็นรุ่นต้นแบบครับ กับกรอบตัวเครื่องแบบโลหะ ที่ช่วยทำให้ตัวเครื่องดูหรูหรามากขึ้น
ถ่ายภาพ Selfie ได้สะใจ ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล


นอกจาก Samsung Galaxy Note 4 จะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นด้านการขีดเขียนเป็นหลัก แต่ล่าสุด ก็ได้เข้าสู่วงการ Selfie อย่างเป็นทางการอีกรุ่น ด้วยกล้องด้านหน้า ความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Wide Selfie กับมุมมองกว้างถึง 120 องศา ถ่ายรูปกับกลุ่มเพื่อนได้สบายๆ
Multi-Windows ปรับปรุงใหม่
ฟีเจอร์ Multi-Windows หรือการเปิดแอปฯ ซ้อนกัน 2 แอปฯ ในหน้าจอเดียว ได้รับการปรับปรุงใหม่บน Samsung Galaxy Note 4 ครับ จากแต่ก่อนที่เปิดแอปฯ แบบแบ่งหน้าจอ จากนี้ไป สามารถเปิดแอปฯ เป็นหน้าต่างเล็กๆ ซ้อนบนอีกแอปฯ ได้แล้ว
ปากกา S Pen ปรับปรุงใหม่ พร้อมเพิ่มลูกเล่นใหม่ ขีดเขียนได้สนุกกว่าเดิม


ปากกา S Pen ได้มีการปรับปรุงให้รองรับน้ำหนักในการกดเพิ่มขึ้นถึง 2048 ระดับ จากเดิม 1024 ระดับ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังใช้ปากกาจริงๆ จดลงบนกระดาษโน้ตมากขึ้น อีกทั้ง ยังสามารถใช้ลากข้อความหรือรูปภาพได้ เหมือนกับการใช้เมาส์บนคอมพิวเตอร์พีซีครับ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ที่มีชื่อว่า Smart Select กับความสามารถในการ crop รูปได้หลายรูป และส่งเป็นข้อความหรืออีเมลได้พร้อมกันในคราวเดียว
ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้น แต่กินพลังงานน้อยลง 7.5%
Samsung Galaxy Note 4 ประหยัดพลังงานได้มากกว่า Samsung Galaxy Note 3 ถึง 7.5% นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Fast Charging สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลาแค่ 30 นาที เทียบกับรุ่นก่อนๆ ที่ต้องใช้เวลาถึง 55 นาที
มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ


เช่นเดียวกับ Samsung Galaxy S5 ครับ เมื่อ Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งอยู่ตรงใต้กล้องด้านหลังตัวเครื่อง นอกจากจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว เซ็นเซอร์ดังกล่าว ยังสามารถใช้เป็นชัตเตอร์ในการถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหน้าได้อีกด้วย

ไมโครโฟน 3 ตัว บันทึกเสียงได้รอบทิศ


Samsung Galaxy Note 4 มาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 3 ตัว ที่สามารถบันทึกเสียงได้ถึง 8 ทิศทาง นอกจากนี้ ยังมี Noise Cancellation สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
Samsung Galaxy Note 4 วางจำหน่ายตุลาคมนี้
Samsung Galaxy Note 4 มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำ (Charcoal Black), สีขาว (Frost White), สีทอง (Bronze Gold) และสีชมพู (Blossom Pink) สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย Samsung Galaxy Note 4 ทางซัมซุง แจ้งแค่ว่า วางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ ยังไม่เปิดเผยราคา และประเทศที่วางจำหน่าย ต้องติดตามกันต่อไปครับ
หลุดราคา Samsung Galaxy Note 4 ในยุโรป เฉียด 4 หมื่นบาท!
ล่าสุด (5 ก.ย.57) มีข้อมูล ราคา Samsung Galaxy Note 4 จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เผยออกมาครับ ซึ่งคาดว่า น่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ราวๆ 799 ยูโร หรือประมาณ 37,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งถือว่า เป็นราคาที่สูงพอสมควร แต่อย่าลืมว่า ราคาสมาร์ทโฟนในประเทศแถบยุโรปนั้น มีราคาที่สูงกว่าบ้านเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต้องมาลุ้นกันว่า ราคา Samsung Galaxy Note 4 ในไทย จะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่?

cr; http://www.techmoblog.com/samsung-galaxy-note-4/

Samsung เปิดตัว Gear VR อย่างเป็นทางการ อุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Galaxy Note 4

Samsung เปิดตัว Gear VR อย่างเป็นทางการ อุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ Galaxy Note 4


ในงาน Unpacked เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมานั้นทาง Samsung ไม่ได้ทำการเปิดตัวแค่ Galaxy Note 4 แต่เพียงอย่างเดียวครับ เพราะในงานนั้นยังได้มีอุปกรณ์เสริมที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมาว่าทาง Samsung กำลังแอบซุ่มพัฒนาอยู่ อุปกรณ์ชิ้นนั้นก็คือ Gear VR อุปกรณ์สวมใส่สำหรับสร้างภาพเสมือนจริง ที่คล้ายคลึงกันกับ Oculus Rift ครับ เนื่องจากว่าทาง Samsung ได้ทำการพัฒนา Gear VR ร่วมกันกับบริษัท Oculus ผู้ผลิต Oculus Rift นั่นเองครับ




Gear VR นั้นถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยแนวคิดเดียวกันกับ Google Cardboard project ครับ(เป็นโปรเจคที่จะนำเอาโลกเสมือนจริงมาสู่ผู้ใช้งาน smartphone ด้วยเลนส์ราคาถูกเพื่อสร้างประสบการณ์ทางด้านโลกเสมือนจริงให้กับผู้ใช้) แต่ทว่า Gear VR นั้นดูเหมือนกับ Oculus Rift มากกว่าในมุมของด้านการดีไซน์และรูปลักษณ์ภายนอก(และที่สำคัญคือคุณไม่ต้องทำ Gear VR เองเหมือนที่คุณต้องสร้าง Oculus Rift ขึ้นมาเองจากอุปกรณ์ที่ผู้ผลิตส่งมาให้คุณครับ) Gear VR ถูกกำหนดขึ้นมาให้ใช้งานคู่กันกับ Galaxy Note 4 ครับ โดยตัว Gear VR นั้นจะดึงภาพของ Galaxy Note 4 มาทำการสร้างเป็นแอฟเฟค 3 มิติบนตัวเลนส์ของ Gear VR นอกไปจากนั้น Gear VR ยังจะรองรับการใช้งานร่วมกันกับคอนโทรเลอร์ที่เชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth เพื่อใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะด้วยอีกครับ




การใช้งาน Gear VR นั้นให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ Oculus Rift ครับ(ซึ่งไม่น่าแปลกเพราะ Samsung ร่วมพัฒนา Gear VR กับ Oculus) แต่สิ่งหนึ่งที่ Gear VR ดีกว่า Oculus Rift นั้นก็คือ Gear VR ไม่มีสายเชื่อมต่อให้ผู้ใช้ต้องมากวนใจเวลาใช้งานครับ ทำให้การใช้งาน Gear VR นั้นง่ายและทำให้เกิดความสะดวกสบายกว่า Oculus Rift มาก การเคลื่อนไหวเวลาที่สวม Gear VR อยู่นั้นผู้ใช้ก็จะรู้สึกไม่ติดขัดเพราะไม่มีสาย(แต่ถึงกระนั้น Samsung ก็แนะนำให้ผู้ใช้ Gear VR ใช้งานตอนที่นั่งมากกว่าที่จะใช้งานแล้วทำการเดินไปเดินมาครับ) หากเทียบ Gear VR กับ Cardboard ของ Google แล้วก็พบว่าเวลาใช้งาน Gear VR นั้นคุณไม่จำเป็นต้องเงยหน้าให้เข้ากันกับเลนส์ของตัว Gear VR ครับ เพราะ Gear VR ถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับสายตาพอดี ทำให้เวลาใช้งานไม่เกิดอาการเมื่อยคอครับ นอกไปจากนั้น Gear VR ยังมีโหมดให้คุณทำการฉายภาพจากกล้องด้านหลัังของ Galaxy Note 4 ได้เวลาที่คุณสวม Gear VR อยู่ นั่นยิ่งทำให้การใช้งานเวลาเดินนั้นง่ายขึ้นมาในทันทีครับ(ไม่ต้องคอยถอดออก)




สำหรับทางด้านซอฟต์แวร์ที่รองรับนั้น ในตอนนี้ทาง Samsung ได้มีการพัฒนาตัวอย่างซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานกับ Gear VR ขึ้นมา 2 – 3 ตัวอย่างครับ ซึ่งแต่ละตัวอย่างนั้นก็แสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่ดีของ Gear VR ส่วนในอนาคตนั้นทาง Samsung จะได้ทำการปล่อย SDK ของ Gear VR ออกมาให้ผู้ผลิตภายนอกได้นำไปพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมารองรับกับ Gear VR ครับ(แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าจะปล่อยออกมาในช่วงใด หรือได้ทำการปล่อยออกมาแล้วหรือไม่) ทั้งนี้นี่ก็ถือเป็นอีกครั้งที่ Samsung ทำการสร้างนวัตกรรมให้กับโลก smartphone ครับ ถึงแม้ว่าอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงนั้นจะไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไร แต่จากสิ่งที่ Samsung ทำในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการนำภาพเสมือนจริงที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้ใช้ในเร็วๆ วันนี้มาใกล้กับผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้นครับ น่าเสียดายที่ทาง Samsung ไม่ได้ให้ข้อมูลว่า Gear VR นั้นจะพร้อมวางจำหน่ายช่วงไหน และราคาอยู่ที่เท่าไร แต่จากการคาดการณ์แล้วคงจะเป็นช่วงหลังจากที่ Galaxy Note 4 วางขายอย่างเป็นทางการไปแล้วอย่างน้อย 2 – 3 เดือนขึ้นไปแน่นอนครับ

cr; http://notebookspec.com/samsungs-gear-vr-portable-oculus-rift-galaxy-note-4/254504/

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

5 คณะยอดฮิตที่ พ่อแม่เหยียบเบรค "ไม่ให้ลูกเรียน"

สวัสดีครับ ต้องเคยมีบ้างล่ะสำหรับเหตุการณ์ที่ลูกๆ อย่างพวกเรามีความเห็นไม่ตรงกับพ่อแม่!! ยิ่งเฉพาะตอน ม.6 นี้เสี่ยงเกิดบ่อยมากกกก โดยเฉพาะประเด็นคณะในฝันที่ลูก กับพ่อแม่ ดันฝันคนละคณะกัน O_O วันนี้ พี่ลาเต้ มี 5 คณะยอดฮิตที่เด็ก ม.6 ถูกพ่อแม่เหยียบเบรคไม่ให้เรียน มาฝากกันครับ ลองดูซิว่ามีคณะไหนกันบ้าง
 
5 คณะยอดฮิตที่ พ่อแม่เหยียบเบรค "ไม่ให้ลูกเรียน"


  คณะนิเทศศาสตร์/วารสารฯ  
           เป็นคณะที่พ่อแม่หลายคนเหยียบเบรคแรงจริงๆ โดยให้เหตผลสั้นๆ ว่า “เรียนจบไป อาจหางานยาก” ซึ่งก็จริงอยู่ เพราะอย่าลืมว่าคณะนี้มีเปิดสอนเกือบทุกมหาวิทยาลัย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตด้านนิเทศศาสตร์เดินออกมาสมัครงานเยอะมากถึงมากที่สุด

           แต่หากมองอีกมุมแล้ว คณะนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากขาดคณะนี้ไป ประเทศเราจะขาด
ทรัพยากร บุคคลด้านวิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ โฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารไปทันที ยิ่งทุกวันนี้มีทั้งทีวีดิจิตอล และทีวีดาวเทียม ตำแหน่งงานมรสาขานี้ยังต้องการอีกมาก จึงเป็นอีกหนึ่งสาขาที่หากอยากเรียนลองใช้เหตุผลนี้ไปเจรจากับพ่อแม่ได้ครับ

  คณะดุริยางค์ศิลป์ / ดนตรี  
           คนที่จบคณะนี้ส่วนใหญ่ทำงานเป็นศิลปิน นักดนตรี ซึ่งไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนเป็นพ่อแม่ซักเท่าไหร่ ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็อยากให้ลูกทำงานในอาชีพความมั่นคง ดังนั้น น้องๆ ที่ตั้งใจจะเรียนคณะนี้ คงต้องวางแผนชีวิตของตัวเองให้ชัดเจน หาข้อมูลมากๆ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพที่รองรับเมื่อเรียนจบไป เพื่อที่จะตอบคำถามของผู้ปกครองได้ แต่หากไม่สามารถตกลงกันได้จริงๆ พี่ลาเต้ ก็แนะนำให้เรียนตามที่ผู้ปกครองบอกครับ ส่วนด้านดนตรีค่อยไปเรียนเสริมเอา แบบนี้เราก็จะได้ทั้งคู่ ไม่มีเสียจริงปะ 555

  คณะศิลปกรรมศาสตร์  
           คณะนี้จะเหมารวมด้านการละคอน นาฏศิลป์ การแสดง จิตรกรรม ออกแบบนิเทศศิลป์ ซึ่งก็ไม่แปลกถ้าหากพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือแม้แต่เราเอง ก็จะนึกภาพไม่ออกว่าจบไปแล้วทำงานอะไร หรือทางด้านพ่อแม่ก็จะให้เหตุผลแย้งมาว่า “มันไม่มั่นคง เงินไม่ดี เท่าอาชีพอื่นๆ นะ” ซึ่งพอเจอเหตุผลข้อนี้ไป ก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลไหนมาต่อเลย แต่น้องๆ ที่เรียนคณะนี้ พี่ลาเต้ นับถือเลยว่าเกิดจากความรัก และความถนัดจริงๆ

  คณะวิศวกรรมศาสตร์  
            โดนมาก โดยเฉพาะกับน้องๆ ผู้หญิง ที่ถูกผู้ปกครองห้ามเรียน จะมาจากเหตุผลอะไร มาอ่านจากบทสัมภาษณ์ของน้องคนนี้กันเลย “อยากเข้าวิศวะ ชอบเครื่องกล แต่พ่อแม่ไม่ให้เพราะเป็นผู้หญิง บอกว่าวิศวะเรียนแล้วอยู่โรงงาน ทำงานต่างจังหวัด ถึงเกรดดีกว่าแต่บริษัทส่วนใหญ่ก็เลือกผู้ชายเพราะบู้กว่า ไม่เรื่องมาก ไปลุยกับงานได้ ยอมรับว่ามันก็จริงของ เขา เถียงก็เถียงไม่ขึ้น ยังคิดอยู่ว่าดีแล้วเหรอที่ปล่อยให้เป็นแบบนี้ บ่นกับเขาหลายครั้ง เขาก็บอกว่าถ้าเกิดเป็นผู้ชายเขาจะไม่ห้ามเลย ให้ตายซิ T_T”

  คณะแพทยศาสตร์  
            เป็นคณะที่ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกพ่อแม่ห้าม แต่ลองมาฟังเหตุผลกันครับ “อยากเรียนแพทย์ แต่พ่อแม่ไม่สนับสนุน พ่อกับแม่เคยผ่านมาก่อน เรียนหนัก งานโหด
โดน ฟ้องเยอะ...สรุปไม่สนับสนุน” โอ้วว มีเหตุผลแบบนี้ด้วย (ขอนอกเรื่อง) เป็นพี่ลาเต้นะ ที่บ้านอยากให้เรียนมาก แต่ห่วงว่าจะสอบเข้าได้เปล่า

             เอาล่ะครับ ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 คณะที่พ่อแม่ส่วนใหญ่เหยีบบเบรคเอี๊ยด!! หากสังเกตดีๆ จะเป็นคณะสายศิลป์ซะส่วนใหญ่ ซึ่งบ่งบอกถึงแนวคิดของคนไทยเราได้เป็นอย่างดี อีกมุมหนึ่งที่ได้จากการทำบทความนี้ คือ ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะมองไกลเลยว่า จบไปลูกจะทำงานอะไร และลูกจะดูแลตัวเองให้รอดได้ไหม ส่วนลูกๆ อย่างพวกเราจะมองว่าเราจะเรียนคณะไหนให้มีความสุข และตรงกับความถนัดมากที่สุดนั้นเอง
 
cr; http://www.dek-d.com/admission/35372/